Admin_support
chalermphol@qmlcorp.com
ส่องเทรนด์ E-Commerce 2017 (1077 อ่าน)
29 ก.ย. 2559 03:22
ที่ผ่านมาE-commerce ถือเป็นหนึ่งการทำธุรกิจที่ได้รับความนิยมเรื่อยมา ไม่เฉพาะในไทยเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงต่างประเทศอีกด้วย เช่น ในสหรัฐฯ จากการคาดการณ์ของ Internet Retailer อ้างว่า จะมีการใช้จ่ายออนไลน์เป็นเงินกว่า 3แสนห้าหมื่นพันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2016 และจะเกิน 4แสนพันล้าน ในปี 2018
โดยปี 2017 ที่กำลังมาถึง E-Commerce จะดำเนินไปสู่การเริ่มต้นตลาดใหม่ๆ หากผู้ประกอบการไม่พัฒนาตามความต้องการของลูกค้า หรือตามเทรนด์ในปัจจุบัน คุณก็จะถูกทิ้งไว้กลางทางตามหลังผู้อื่นออกไปเรื่อยๆ ซึ่งการแข่งขันในตลาดทุกวันนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์สินค้าของคุณ อีกทั้งแบรนด์สินค้านั้นต้องสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค สร้างการมีส่วนร่วมในการสินค้าของผู้บริโภคในออนไลน์ เหล่านี้จะช่วยให้คุณเป็นผู้ชนะอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2017
และนี่คือ 5 เทรนด์ E-Commerce ในปี 2017
1.โทรศัพท์มือถือยังเติบโตต่อเนื่อง
ทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมชอปปิ้งผ่านมือถือสมาร์ทโฟน รวมไปถึงแท็บเล็ต จึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นแบรนด์สินค้าปรับตัวด้วนการทำแพลตฟอร์มบนมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมา อย่างไรก็ตาม แบรนด์สินค้าควรจะโฟกัสไปที่เว็บไซต์ที่ตอบสนองการเข้าถึงของสมาร์ทโฟนมากกว่าแอพพลิเคชั่นเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของนักชอปปิ้งจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 50% ในปี 2017 ดังนั้น หากแบรนด์สินค้าไม่สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าบนมือถือสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตรายได้ส่วนนี้ก็อาจหายไปครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
2.เพิ่มช่องทางชำระเงินที่หลากหลาย
ช่องทางการชำระเงินควรตั้งอยู่บนความง่ายและความสะดวกสบายของลูกค้า โดยคุณอาจจำนำเสนอความหลากหลายของช่องทางการชำระเงินตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละราย เช่น ชำระผ่านบัตรเดบิต&บัตรเครดิต ,อินเทอร์เน็ตแบงค์กิ๊ง อย่างไรก็ตาม ยังมีลูกค้าบางรายที่ไม่ชอบการชำระเงินในช่องทางดังกล่าว ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีช่องทางการชำระเงินที่ช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์สินค้าของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น Visa ,MasterCard,Google Wallet และ eBay
3. Pop Ups ที่เห็นมากขึ้น
ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยไม่ชอบ Pop Ups เมื่อเข้าหน้าเว็บไซต์ แต่รู้หรือไม่ว่าเทรนด์ E-Commerce ปี 2017 นี้ Pop Ups กำลังจะกลับมา โดยสังเกตได้จากบนหน้าเว็บไซต์ E-Commerce ในช่วงระยะเวลาที่ผ่าน ซึ่งข้อดีของ Pop Ups นั้นสามารถเชิญชวนให้กับผู้คนที่พบเห็นคลิ๊กเข้าชมข่าวสาร หรือรับอีเมล์เกี่ยวกับรายละเอียดการขายสินค้า แต่ข้อเสีย คือการสร้างความรำคาญให้กับผู้บริโภคในขณะที่กำลังเลือกซื้อสินค้า ดังนั้น ถ้าแบรนด์สินค้าต้องการใช้วิธี Pop Ups ทำการตลาดด้วยความเหมาะสม
4.วิธีการจัดส่งสินค้าที่เร็วขึ้น
ผู้บริโภคคาดหวังที่จะได้รับสินค้าโดยเร็วที่สุด หลังจากที่สั่งซื้อไปแล้ว พวกเขาจะหมดความอดทนกับการรอสินค้ามาส่ง 5-7 วัน ซึ่งความคาดหวังของผู้บริโภคในเรื่องนี้คือความท้าทายของร้านค้า E-Commerce ตัวอย่างเช่น Amazon ที่มีระบบการส่งสินค้าโดยใช้เวลาเพียงสั้นๆ ดังนั้น การจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วจะเป็นกุญแจสำคัญในปี 2017 ที่จะทำให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์อีกครั้ง
อย่างที่ทราบกันว่า ลูกค้านั้นคือพระเจ้า และแบรนด์สินค้าควรจะเอาชนะใจผู้บริโภคด้วยการให้ทางเลือกที่ดีที่สุด โดยเทรนด์ที่กล่าวมาข้างต้นสามารถนำมาปรับใช้เพื่อรักษาฐานลูกค้าให้อยู่กับคุณไปอีกยาวนาน
ที่มา : http://www.smartsme.tv
110.168.229.130
Admin_support
ผู้ดูแล
chalermphol@qmlcorp.com