สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุกคน ก็คงอยากจะหาช่องทางในการพัฒนาการขายของตัวเองให้มากขึ้น เพราะนั่นหมายความถึงการเข้าถึงลูกค้าที่มากขึ้นนั่นเอง

ซึ่งวันนี้เราได้อยู่กับ คุณสิทธิวัจน์ เวชยาพันธุ์ ซึ่งเป็น Co-Founder ที่ทำเกี่ยวกับระบบขายซึ่งเป็น Omni-channel Sales Platform ขื่อว่า Posvision.co เป็น Sharing International Sales platform ระบบการขายที่สามารถให้ร้านค้า SME เข้ามาสมัครใช้งานได้ทั้งหน้าร้าน E-Commerce และเป็นระบบขายหน้าร้านแบบแคชเชียร์ที่เป็นแพลตฟอร์ม Cloud Based Application Platform ซึ่งทางผู้ประกอบการหรือร้านค้ารายย่อยสามารถที่จะขายของได้หลายช่องทาง โดยใช้ระบบเดียว คือการบริหารจัดการหลังบ้านแบบครบวงจร

ลิงก์ทุกอย่างเข้าสู่แพลตฟอร์มเดียว ประหยัดเวลาทำธุรกิจขึ้นอีกเยอะ

Posvision เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงระหว่างหน้าร้านและหลังร้านเข้าด้วยกัน ซึ่งจะทำให้ทุกธุรกิจไม่ว่าจะออฟไลน์ ออนไลน์ ก็ลิงก์เข้าสู่ระบบกลางได้ทันที

คุณสิทธิวัจน์ อธิบายว่า Posvision จะเป็นการบริหารจัดการทุกอย่างและมีระบบหลังบ้านให้ เช่น สต๊อก สินค้า ออกใบเสร็จ มี Report ให้ระบบรันเข้าไป ไม่ว่า Order จะมาทาง E-Commerce ก็จะมีลิงก์ให้เลย เป็นเหมือนเว็บไซต์ Commerce ให้ แล้วคุณก็เข้าไปแก้ไขเนื้อหา แก้ไขรูปภาพ คล้ายๆ กับเว็บไซต์สำเร็จรูปคนอื่นๆ เพียงแต่ว่าเราจะลิงก์เข้ากับระบบขายที่เป็นระบบหลัก

ข้อดีของเราคือช่วย SME ในการประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา ทำให้คุณมีเวลาในการทำธุรกิจมากขึ้น รวมถึงป้องกันความผิดพลาดต่างๆ และประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย เพราะเมื่อมีแพลตฟอร์มตัวหนึ่งที่ช่วยงานอื่นๆ ได้ ก็สามารถลด Operation Cost ลงได้อีก

ปัจจุบัน ถ้าเอสเอ็มอีมี E- Commerce ขายออนไลน์ เขาก็ต้องใช้เวลากับตรงนั้น แล้วถ้ามีหน้าร้านด้วย ก็จะเสียเวลาทั้ง 2 ฝั่ง แพลตฟอร์มเราช่วยให้ขายได้ในหลายๆ ช่องทาง ช่วยเขาประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย รวมไปถึงเซฟเวลาได้มากขึ้น”

จุดเริ่มต้น Posvision ศึกษาจากประสบการณ์ที่สั่งสมอมาตลอด 10 ปี

ผมเป็น Software House มาก่อน เปิดมา 10 กว่าปีแล้ว กลุ่มลูกค้าหลักๆ ของเราส่วนใหญ่จะเป็น Retail ก็คือธุรกิจค้าปลีก เราอยู่ในแวดวงธุรกิจค้าปลีก เราก็เริ่มเห็น Point ของเขาว่า ปัจจุบันการค้าปลีก การแข่งขันสูง และเวลาเขาอยากจะขยายช่องทางการขายออนไลน์ อย่างธุรกิจ Offline ก็จะขยายไปออนไลน์ เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับเขา เขาต้องไปจ้างคนทำเว็บไซต์ พอทำเว็บไซต์เสร็จก็ต้องนำข้อมูลสินค้าเข้าไปในเว็บไซต์ ซึ่งถ้าเป็นร้านค้าที่ใหญ่หน่อยก็จะมีสินค้าเป็น 200 ถึง 300 รายการ ก็ต้องมานั่งใส่ข้อมูลใหม่ทั้งหมด และเวลามียอดขายเข้ามาก็ต้องไปตัดสต๊อกเอง มันก็เกิดความยากลำบากในการขยับขยาย สะท้อนว่าในปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกส่วนใหญ่ในประเทศอยากจะโต แต่เป็นเรื่องยากเพราะไม่มีระบบเข้ามาช่วย ฉะนั้นเราต้องการเป็นระบบตัวหนังสือให้เขาสามารถทำได้ เติบโตไปในอนาคตได้ง่ายที่สุด และรวดเร็วที่สุด เราก็เลยคิด Project นี้ขึ้นมา”

อุปสรรคตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา

ตอนนี้ Posvision ล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 1 อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพวกเขาได้เจอกับอุปสรรคมากมายที่สตาร์ทอัพทุกคนต้องเจอ และแน่นอนว่าพวกเขาไม่ยอมแพ้ แต่กลับเอาชนะและสามารถรวบรวมร้านค้าทั่วประเทศให้เข้ามาใช้บริการได้มากถึง 3,000 ร้านค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อุปสรรคที่เจอช่วงแรกก็คือ เรื่องของการทำ R&D เพราะว่าเราไม่อยากจะทำแพลตฟอร์มขึ้นมาโดยที่เราคิดเองเออเอง ดังนั้นเราไปสัมภาษณ์ ไปถามร้านค้าที่เป็น SME จริงๆ ผมเดินสัมภาษณ์คุยกันไม่ต่ำกว่า 100 ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็น Platinum ยูเนี่ยนมอลล์ หรือตามตลาดจตุจักร

พอถามเสร็จเราก็นำมาศึกษา เปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มของต่างชาติ รวมไปถึงของคนไทยในปัจจุบันด้วยว่า ข้อดีข้อเสียของแต่ละแพลตฟอร์มมันเป็นยังไง เราก็ทำ Case Study ขึ้นมา

อุปสรรคอีกด้านหนึ่งก็คือ เราต้องการที่จะสเกล ต้องการที่จะขายให้ลูกค้าเยอะๆ ช่วงแรกๆ อาจจะยาก เพราะว่าเราเป็นแบรนด์ใหม่ ซึ่งใครก็ไม่รู้จัก เราก็เลยพยายามสร้างความน่าเชื่อถือโดยในช่วงแรกเราก็พยายามไปออกบูธ พยายามไปออกสื่อบ้าง หรือว่าไปหา Partner บ้าง เพื่อให้เราแข็งแกร่งขึ้น

จุดเด่นของ Posvision ที่แตกต่างจากธุรกิจในโมเดลเดียวกัน

แน่นอนว่าการทำสตาร์ทอัพของคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะมีคนที่เริ่มทำธุรกิจในแนวๆ เดียวกันนี้มาก่อนคุณแล้วอย่างแน่นอน แต่เพียงแค่เขาอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ หรืออยู่คนละซีกโลกเลยก็ได้

ถ้าพูดถึงในตลาดตอนนี้ ที่เป็น Cloud Based ก็จะมีไม่กี่เจ้า เราจะเก่งในเรื่องของงานขาย เน้นธุรกิจค้าปลีกมาก่อน ฉะนั้นระบบออฟไลน์ถ้าเปรียบเทียบกับเจ้าอื่นที่เป็นเรื่องของออฟไลน์ ถ้าเป็น Cloud Based เราค่อนข้างที่จะมี Function การใช้งาน หรือคุณสมบัติต่างๆ จะตอบโจทย์มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ

ในอนาคต Posvision จะเพิ่มฟังก์ชั่นในส่วนไหนขึ้นบ้าง

ในอนาคต เรากำลังต่อ API กับ Partner หลายๆ เจ้า ไม่ว่าจะเป็นโลจิสติกส์ พวกบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับค้าปลีกทั้งหมด เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงเรากำลังจะสร้าง Network ของกลุ่มคนค้าปลีกที่ใช้ระบบของ Posvision

รวมทั้งเรามีการ Cross selling Promotion ระหว่างคนภายใน Network สมมติผมขายเครื่องใช้ไฟฟ้า อีกร้านหนึ่งมีขายอุปกรณ์ไอที สามารถมาทำโปรโมชั่นร่วมกันได้ เช่น เมื่อซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าจากร้านนี้ สามารถไปซื้ออุปกรณ์ไอทีอีกร้านในราคาพิเศษ ให้ลิงค์กัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของแฟลตฟอร์ม ถ้าลูกค้าเห็นประโยชน์ในแพลตฟอร์มเขาก็จะไม่ไปใช้ของเจ้าอื่น แต่ถ้าหากคนที่ใช้แฟลตฟอร์มอื่นแล้วหันมาใช้แฟลตฟอร์มเรา เขาก็จะได้ประโยชน์ตรงนี้ ได้ด้วย

ที่มา : https://www.bangkokbanksme.com