เปลี่ยนความเลวร้ายจากการถูกรังแกเป็น BullyBox

ความรุนแรงที่ถูกใช้ตามสถานศึกษายังคงเป็นปัญหาที่เรื้อรังและเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ใช่แค่ที่ประเทศไทย หากแต่ในต่างประเทศก็สามารถพบเห็นความรุนแรงเหล่านี้ได้เช่นกัน โดยในบางครั้งการดูหนังต่างประเทศที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับไฮสคูล หรือเด็กนักเรียน จะต้องมีประเด็น หรือมีฉากของเด็กที่ได้รับความรุนแรงจากการทุกกลั่นแกล้งไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม และไม่ว่าจะมากหรือน้อย ซึ่งนั่นอาจจะเป็นอีกวิธีหนึ่งในการตีแผ่ความรุนแรงเหล่านี้ให้หลายคนได้รับรู้ว่ายังคงมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นอยู่จริงในโรงเรียน เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองหันมาสนใจบุตรหลาน และสอบถามเรื่องความเป็นอยู่ในโรงเรียนกันมากขึ้น เพื่อป้องกันความรุนแรงหากเกิดขึ้นจะได้สามารถร่วมมือกันแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

แล้วสำหรับเด็กที่ไม่กล้าบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ด้วยตัวเอง และไม่สามารถบอกให้ได้เกี่ยวกับปัญหาที่ตนเองเจอเราจะสามารถทำอย่างไรกับเด็กเหล่านี้ได้ ? ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้นักธุรกิจวัยทีนอย่าง Brandon Boynton ได้เลือกนำความเจ็บปวดจากการที่ตัวเขาก็เคยเป็นหนึ่งในเด็กที่ถูกกลั่นแกล้ง มาสร้างเป็นโอกาสโดยการจัดตั้ง MostBeastlyStudios LLC ขึ้นเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชันช่องทางรับฟังคนที่ประสบปัญหาแบบเดียวกัน

Brandon Boynton ในวัยเด็กเขาเป็นเด็กอีกคนหนึ่งที่มักจะถูกกลั่นแกล้งจากเด็กกลุ่มหนึ่งในโรงเรียนเช่นกัน และถึงแม้ตัวเขาเองจะพยายามหาทางออกด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงสมัครตำแหน่งหัวหน้าห้อง แต่กลับยิ่งทำให้เขาถูกกลั่นแกล้งเพิ่มมากขึ้น เหตุการณ์เหล่านั้นเคยเกือบเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาคิดจะฆ่าตัวตาย แต่เพราะเขายังต้องการความยุติธรรมมากกว่าการแก้แค้นหรือเอาคืน สุดท้ายจึงตัดสินใจเขียนจดหมายบอกเล่าถึงเรื่องราวพฤติกรรมของเด็กเกเรเหล่านั้นและนำไปหย่อนในกล่อง Bully Box ของโรงเรียน ที่มักจะติดอยู่ที่ผนังในสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียนที่ไม่ประสงค์ออกนามและต้องการเรียกร้องในเรื่องของการถูกกลั่นแกล้งโดยเฉพาะ และจากรูปแบบของ Bully Box นี้เอง ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเป็นไอเดียสร้างแอปพลิเคชันเพื่อเป็นช่องทางสำหรับป้องกันการถูกกลั่นแกล้ง

ในการใช้งานของแอปพลิเคชันโดยที่ผู้ที่มาใช้งานสามารถเลือกโหมดไม่ระบุตัวตนได้ และเขาเองคิดว่าเด็กๆ ที่โดนกลั่นแกล้งน่าจะชอบวิธีของการไม่ระบุตัวตนมากกว่าเปล่าประกาศออกไปว่าตัวเองเป็นใคร ซึ่งถือว่าเป็นการลุกขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับปัญหาของการถูกกลั่นแกล้งอย่างสันติวิธี โดยทาง Brandon Boynton เอง เขาคาดหวังว่าการใช้แอปพลิเคชันจะสามารถทำให้ช่วยลดปัญหาการถูกกลั่นแกล้งลงไปได้บ้าง และทำให้สังคมภายในโรงเรียนน่าอยู่ขึ้น และผลหลังจากที่ได้มีการเริ่มใช้แอปพลิเคชัน Bully Box พบว่านักเรียนนับแสนคนในสหรัฐอเมริกาได้เข้ามาใช้แอปพลิเคชันนี้

จาก Brandon Boynton ผู้ถูกกลั่นแกล้งมาตลอด เขาได้เปลี่ยนทัศนคติจากการถูกกลั่นแกล้งเป็นช่องทางธุรกิจที่ดีกว่า ที่นอกจากจะสามารถตอบโจทย์ปัญหาที่เขาเคยพบเจอได้ในระดับหนึ่ง ยังสามารถเยียวยาเด็กคนอื่นๆที่เจอแบบเดียวกับเขา เป็นการสร้างแอปพลิเคชั่นเพื่อสังคมที่ดีขึ้น ที่มีไอเดียมาจากประสบการณ์โดยตรงของตนเองที่น่าสนใจ

แล้วคุณล่ะ ? มีประสบการณ์ในชีวิตเรื่องไหนที่สามารถเกิดเป็นไอเดีย จุดประกายธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อสังคมที่ดีกว่าหรือไม่

ที่มา : https://www.bangkokbanksme.com