DIGITAL MARKETING

Last updated: 21 ต.ค. 2559  |  826 จำนวนผู้เข้าชม  | 

DIGITAL MARKETING

เว็บไซต์ที่เป็นแพลตฟอร์มการเล่าเรื่องผ่านตัวอักษร หรือ ‘social writing platform’ เหมือนกับหน้ากระดาษของสมุดไดอารีที่เปิดโอกาสให้ทุกคนไม่ว่าจะอายุเท่าไร ทำอาชีพอะไรสามารถเขียนเรื่องราว ความคิด ประสบการณ์ชีวิตของตนเองแล้วแบ่งปันให้กับคนอื่น ๆ ได้อ่าน ซึ่งแพลตฟอร์มการเขียนเรื่องราวนี้จะเน้นที่ตัวอักษรเป็นหลัก ใส่รูปภาพเปิดได้เพียงรูปเดียว ตกแต่งตัวอักษรไม่ได้ ใส่คลิปวิดีโอไม่ได้ แต่คุณรู้ไหมว่าเว็บไซต์ผู้ให้บริการเก็บเรื่องราวผ่านตัวอักษรแห่งนี้มีผู้เข้ามาใช้บริการกว่า 1.2 ล้านคนภายในเวลาเพียงแค่ 6 เดือน นอกจากจะให้บริการบนเว็บเบราเซอร์ซึ่งใช้ได้บนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือแล้ว ยังมีให้บริการแบบแอพพลิเคชั่นบน iOS ซึ่งดาวน์โหลดได้ฟรีบน App Store อีกด้วย แม้จะเป็นธุรกิจเริ่มใหม่ที่ยังไม่มุ่งเน้นด้านผลกำไร แต่ทางเจ้าของธุรกิจก็มีการวางแผนในการสร้างผลกำไรจากธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ ในอนาคตอันใกล้ เช่น การรวมเล่มเรื่องราวเป็น e-book หรือการจ่ายเงินเพื่ออ่านเรื่อง เป็นต้น

เว็บไซต์ที่ถือกำเนิดขึ้นจากเวลาว่างขณะเข้าเวรของคุณหมอท่านหนึ่งที่ชื่อ ‘จ่าพิชิต ขจัดพาลชน’ โดยมีคอนเซ็ปต์คือนำเสนอข่าว ประเด็นกระทู้ที่น่าสนใจหรือกำลังเป็นที่สนใจของผู้คน โดยใช้รูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างจากเว็บไซต์ข่าวสารอื่น ๆ ด้วยการเขียนอธิบายความเป็นมา เรียบเรียงเหตุการณ์ และอาจมีการวิเคราะห์เสริมเข้าไปด้วย ซึ่งทุกวันนี้เว็บ drama-addict ได้ก้าวขึ้นเป็นเว็บไซต์ที่มีคนติดตามมากที่สุดอีกเว็บหนึ่งเลยทีเดียว ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต ไม่ต้องมีบริษัทเป็นหลักเป็นแหล่ง สามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ และคุณหมอเจ้าขอเว็บไซต์ก็พูดเองว่าขณะนี้มีคนที่ช่วยทำเว็บนี้อยู่อีกเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าแล้วธุรกิจนี้จะทำกำไรได้จากไหน คำตอบง่าย ๆ ก็คือ ผ่านพื้นที่โฆษณาบนหน้าเว็บนั่นเอง เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ที่ฮอตฮิตติดตลาดเป็นที่นิยมและมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เว็บไซต์นี้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าสนใจในหมู่บริษัทหรือร้านค้าอื่น ๆ ที่ต้องประชาสัมพันธ์ตนเอง นอกจากนี้แล้วทางเว็บก็ยังมีการจัดทำสินค้าพิเศษ อย่างเช่น ตุ๊กตาและเสื้อที่เป็นโลโก้ของเว็บให้แฟนเพจได้สั่งซื้ออีกด้วย ซึ่งก็ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างผลกำไรในธุรกิจด้วยเช่นกัน
ได้รู้และเห็นตัวอย่างการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่บนโลกออนไลน์ที่มีความเปิดกว้าง และใช้เงินลงทุนน้อย ซึ่งถือเป็นรูปแบบธุรกิจที่จะเข้ามาครองโลกในยุคดิจิตอลอย่างนี้แล้ว คงจะทำให้คุณเองเกิดความรู้สึกอยากเป็นเจ้าของธุรกิจขึ้นมาเหมือนกันใช่ไหม ขอเพียงแค่คุณมีความคิดที่สร้างสรรค์ มีความเป็นเอกลักษณ์ อนาคตเจ้าของธุรกิจก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน

อินเทรนด์กับการทำธุรกิจแบบใหม่อย่าง e-business
วันนี้แค่มีคอมพิวเตอร์เครื่องนึงที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตได้ คุณก็สามารถมีร้านค้าเป็นของตัวเองได้แบบง่าย ๆ แล้ว ดังนั้นในปัจจุบันเราจึงได้เห็นเด็กนักเรียนหรือนักศึกษามากมายสามารถก้าวขึ้นมาเจ้าของธุรกิจกันได้แบบไม่ยาก ทั้งเป็นธุรกิจตัวแทนขายสินค้า รับพรีออเดอร์สินค้าจากต่างประเทศ หรือดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งจะขอยกตัวอย่างธุรกิจบนโลกออนไลน์ที่น่าสนใจจนอาจเป็นแรงบันดาลใจให้คุณอยากเริ่มธุรกิจแบบนี้กับเขาบ้างก็ได้

หน้าร้านแบบเก่ามันไม่เข้ากับยุคนี้แล้วจ้า
สภาพที่ทุกวันต้องตื่นแต่เช้ามาเปิดหน้าร้านหรือบริษัทเพื่อขายของและให้บริการแบบเมื่อสมัยที่พ่อแม่ของคุณเคยทำมันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว ถ้าอยากอินไปกับการทำธุรกิจแบบคนรุ่นใหม่ e-business นี่แหละคือคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้า หรือให้บริการในรูปแบบต่าง ๆ ก็ทำได้ง่าย ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต หาที่นั่งสบาย ๆ จะที่บ้าน ในห้องนอน ในร้านกาแฟ ในสวนสาธารณะก็สามารถเริ่มติดต่อธุรกิจได้เลยผ่านทางร้านค้าออนไลน์ที่คุณได้สร้างขึ้นเองในแบบที่ต้องการ แถมร้านค้าของคุณยังเปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าจะเข้ามาในร้านของคุณเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะพวกเขาก็ใช้อินเตอร์เน็ตในการซื้อสินค้าและบริการจากคุณเช่นกัน สิ่งที่จุดประกายให้ธุรกิจบนโลกออนไลน์ยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เกิดจากที่ทุกวันนี้ตลาดใหญ่ในการหาลูกค้านั้นก็คือบนอินเตอร์เน็ต ลองจินตนาการดูสิ เวลาที่คุณอยากซื้ออะไรสักอย่าง ที่แรกที่คุณคิดถึงในการค้นหาร้านค้าที่ขายของสิ่งนั้นได้ง่ายที่สุดคืออะไร ก็จาก search engine บนอินเตอร์เน็ตใช่ไหม ลองนึกดูว่าโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจต่าง ๆ แบบดิจิตอลบนโลกออนไลน์จะมีมากขนาดไหน จนทำให้แม้แต่บริษัทใหญ่ ๆ หรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้งหลายต่างก็ต้องมีการเปิดหน้าร้านออนไลน์ไว้ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสินค้าและบริการผ่านทางอินเตอร์เน็ตเช่นกัน ซึ่งมีทั้งแบบที่เป็นเว็บไซต์ และแบบที่เป็นแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ

สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่ง ถ้าหากเป็นยุคของคุณพ่อคุณแม่เมื่อสมัยก่อน สิ่งที่ต้องคิhดถึงเป็นอันดับแรกก็คงจะเป็นเงินทุนในการเปิดร้านค้าหรือบริษัท เพราะไม่ว่าจะทำธุรกิจขายสินค้าหรือธุรกิจให้บริการใด ๆ ก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องมีหน้าร้านหรือบริษัทที่เป็นรูปเป็นร่างไว้รับรองลูกค้าหรือติดต่อธุรกิจ จึงจะดูน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้า แต่นั่นก็เป็นอดีตไปเสียแล้ว เพราะถ้าดูแนวโน้มของธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้กลับกลายเป็นว่าส่วนใหญ่ไม่ได้เริ่มจากการเปิดหน้าร้านหรือบริษัทที่เป็นรูปเป็นร่างอีกต่อไปแล้ว ต้องขอบคุณเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมโยงโลกทั้งใบเข้าไว้ด้วยกันซึ่งคุณเองก็สามารถเข้าถึงข้อมูลและบุคคลต่าง ๆ ได้เกือบทั่วโลกด้วยคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ คือ การใช้ระบบดิจิตอลในการทำธุรกิจหรือที่เรียกกันแบบง่าย ๆ ว่า ‘ธุรกิจ e-business’ นั่นเอง เนื่องจากไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ไม่ต้องมีหน้าร้าน แต่ก็สามารถขายสินค้า ให้บริการ และเข้าถึงลูกค้าได้เหมือน ๆ กับการเปิดหน้าร้านนั่นเอง

iPrice พามารู้จักกับการทำธุรกิจในแบบดิจิตอลหรือ e-business กันก่อน (ขอบคุณข้อมูลจาก www.mindphp.com และ www.thaiecommerce.org)
ธุรกิจ e-business หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์’ คือ การดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และอินเตอร์เน็ตเพื่อขายสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วทันใจ และยังช่วยลดต้นทุนในการประกอบกิจการด้วย เพราะไม่จำเป็นต้องลงทุนในด้านของอาคารประกอบการ ทำเลที่ตั้ง โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า หรือแม้แต่พนักงานนั่นเอง

แนวโน้มของธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ จะเห็นว่าส่วนใหญ่ไม่ได้เริ่มจากการเปิดหน้าร้านหรือบริษัทที่เป็นรูปเป็นร่างอีกต่อไปแล้ว ต้องขอบคุณเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมโยงโลกทั้งใบเข้าไว้ด้วยกันซึ่งคุณเองก็สามารถเข้าถึงข้อมูลและบุคคลต่าง ๆ ได้เกือบทั่วโลกด้วยคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ คือ การใช้ระบบดิจิตอลในการทำธุรกิจหรือที่เรียกกันแบบง่าย ๆ ว่า ‘ธุรกิจ e-business’ นั่นเอง เนื่องจากไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ไม่ต้องมีหน้าร้าน แต่ก็สามารถขายสินค้า ให้บริการ และเข้าถึงลูกค้าได้เหมือน ๆ กับการเปิดหน้าร้าน

ที่มา : http://www.smartsme.tv

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

GooGreen START UP

16 ก.ย. 2561

(MOBILE TECHNOLOGY

5 ก.ย. 2561

Call to Action

16 ก.ย. 2561

Powered by MakeWebEasy.com